การลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
หมายถึงการที่ผู้เกี่ยวข้องทุกคนได้ประโยชน์
หากเปรียบเทียบกับการทำงานทางธุรกิจแล้ว ประโยชน์ย่อมหมายถึงกำไร
เจ้าของธุรกิจได้กำไร ลูกค้าพอใจในราคา คุณภาพและการบริการ
คนงานและลูกจ้างได้รีบค่าจ้างแรงงานที่เหมาะสม และมีความรู้สึกที่ดีต่อบริษัท
ในทำนองเดียวกัน
นักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนย้อมได้ประโยชน์จากการเรียนการสอนไม่มากก็น้อย
ดังนี้ ไชยยศ เรื่องสุวรรณ ได้กล่าวว่า
๑. ผู้บริหารหรือผู้จัดการโปรแกรมการศึกษาและกาเรียนการสอนย่อมต้องการความมั่นใจในประสิทธิภาพ
และประสิทธิผลของการเรียนโดยใช้งบประมาณที่ประหยัดที่สุด
๒.
นักออกแบบการสอน
ย่อมต้องการความมั่นใจว่าโปรแกรมที่ออกแบบไว้เป็นโปรแกรมที่น่าพอใจ
ซึ่งตัวบ่งชี้ที่สำคัญในความพอใจก็คือผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ในเวลาที่เหมาะสม
๓.
ครูผู้สอนต้องการที่จะเห็นผู้เรียนได้รับความรู้ ความสามารถอื่นๆ
ที่จำเป็นรวมทั้งต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียน
๔.
ผู้เรียนต้องการความสำเร็จในการเรียน
ได้รับประสบการณ์การเรียนด้วยความสนุกสนานและพอใจ (ไชยยศ, ๒๕๓๓ :
๑๓)
ออร์แลนสกรี
และสตริง (Oransky and Stering,๑๙๘๑)
ได้สรุปผลการวิจัยการสอนรายวิชาเทคนิคต่างๆ
ด้านการทหารที่มีการออกแบบระบบการเรียนการสอนเป็นอย่างดีว่าสามารถลดเวลาการสอนรายวิชาเหล่านั้นลงได้จาก
๒๕.๓๐ สัปดาห์ เหลือเพียง ๙.๖ สัปดาห์
อย่างไรก็ตามรายวิชาดังกล่าวที่เป็นรายงานผลการวิจัยนั้น เป็นรายวิชาด้านการทหาร
ยังไม่มีรายงานผลการวิจัยรายวิชาอื่น (ในต่างประเทศ)
ที่พัฒนาขั้นมาโดยกระบวนการออกแบบการเรียนการสอนแล้วกดเวลาการสอนได้
สำหรับในประเทศไทยอาจกล่าวได้ว่า ระบบการสอนของโครงการส่งเสริมสมรรถภาพการสอน (Reduce
Instructional Time : RIT)
นั้นเป็นการออกแบบและพัฒนาการเรียนการสอนที่ผลการวิจัยระบุว่าสามารถลดเวลาการสอนของครู
และเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี (ไชยยศ,๒๕๓๓ :
๑๔)
ความแตกต่างระหว่างบุคคล
จากข้อความจริงที่ว่า บุคคลย่อมแตกต่างกัน ไม่มีคนสองคนใดเหมือนกันทุกประการ
นักเรียนบางคนเรียนเพื่อหาวิชาได้เร็วมาก บางคนเรียนได้ช้า
บางคนเรียนได้ดีที่สุดด้วยการปฏิบัติ บางคนเรียนได้ดีเมื่อมีกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น
บางคนเรียนได้ดีด้วยการสังเกต ด้วยการอ่าน
การที่ผู้สอนจะเพิกเฉยต่อแบบการเรียนรู้ที่ต่างกัน (difference
learning style)
ของแต่ละบุคคลจะทำให้ประสิทธิภาพการเรียนการสอนไม่เกิดผลเท่าที่ควร
เป็นการเสียเวลาทั้งครูและนักเรียนที่ได้พยายามมาโดยตลอด
การออกแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับเอภัตภาพของผู้เรียนแต่ละคนจะช่วยสนองความต้องการระหว่างบุคคลได้
กลยุทธ์การสอน
การเรียนการสอนที่เน้นการสอนรายบุคคล โดยอาศัยสื่อต่างๆ เข้าช่วย
ทั้งที่เป็นสื่อประเภทที่มีความซับซ้อนน้อย เช่น กระดาษ ดินสอ
สื่อที่มีความซับซ้อนปานกลาง เช่น โสตทัศนูปกรณ์ต่างๆ และสื่อที่มีความซับซ้อนมาก
ซึ่งหมายถึงสื่อที่มีปฏิกิริยาสัมพันธ์ซึ่งกันและกันโดยอาศัยสื่อโทรคมนาคม (interactive
learning media) และคอมพิวเตอร์เข้าช่วย
การเรียนการสอนแบบรายบุคคลทำให้ผู้เรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์
พัฒนามโนทัศน์ของตนเอง เป็นการเสาะแสวงหาความสามารถพิเศษของผู้เรียน
และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ใช้ศักยภาพของคนที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน
ทำให้ผู้เรียนช้าไม่เหนี่ยวรั้งผู้เรียนเร็ว
และผู้เรียนเร็วสามารถไปได้ไกลที่สุดจนสุดพรมแดนความรู้ของตนเอง
การประเมินผลเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน
จะทำให้ผู้สอนและผู้เรียนปรับปรุงตนเองอยู่เสมอ
เพราะการประเมินผลเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอนอาศัยการประเมินตัวต่อตัว
ประเมินกลุ่มย่อยและการทดลองภาคสนาม
การออกแบบการเรียนการสอนจะทำให้การประเมินในลักษณะนี้ชัดเจนขึ้น และใช้การประเมินแบบอิงเกณฑ์
โดยประเมินผู้เรียนแต่ละคนเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้
หรือเปรียบเทียบกับจุดประสงค์
ในลักษณะนี้จะทำให้ผู้เรียนเรียนด้วยความร่วมมือกันมากกว่าที่จะแข่งขันกัน
เพราะการสร้างสถานการณ์ในชั้นเรียน หรือในสถานศึกษาให้ผู้เรียนเรียนด้วยความร่วมมือกันนั้นย่อมมีประโยชน์ต่อผู้เรียนมากกว่าการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนเกิดการแข่งขันการแน่นอน
เพราะไม่ต้องมีผู้แพ้ให้เกิดปมด้อยไม่ต้องมีการสร้างศัตรู
และที่สำคัญคือผู้เรียนสามารถทำงานของตนเองด้วยความสบายใจ
ไม่ต้องพะวงว่าจะสู้คนอื่นไม่ได้ ในขณะเดียวกันหากเพื่อนมาขอความช่วยเหลืออันใด
ก็จะยินดีให้ความร่วมมือด้วยดี โดยไม่ต้องเกรงว่าเพื่อนจะดีกว่าตน
นอกจากนี้ยังเป็นการเพาะนิสัยที่พึงประสงค์ ให้แก่ผู้เรียนอีกด้วย
เพราะหากจัดการเรียนการสอนแบบร่วมมือกันเป็นพื้นฐานแล้ว
ผู้เรียนจะติดนิสัยการให้ความร่วมมือกับผู้อื่นในภายหน้า ที่เห็นแก่ส่วนรวม
มีความเป็นประชาธิปไตย ยอมรับความคิดเห็น และปฏิบัติตามมติของกลุ่ม
แม้ว่าตนเองจะไม่เห็นด้วย รู้จักช่วยให้กลุ่มประสบความสำเร็จในงาน
เพราะงานบางอย่าง บางประเภทไม่อาจทำสำเร็จได้โดยลำพังผู้เดียว
ต้องอาศัยความร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ส่วนการแข่งขันนั้นบางครั้งเพราะนิสัยเห็นแก่ตัว หรือเอาตัวรอดให้กับเด็กได้
และหากจะยังมีการแข่งขันอยู่ การแข่งขันนั้นควรจะเป็นการเสริมแรงทางบวก คือ
การแข่งขันกับตนเองที่จะเอาชนะใจตนเอง มีวินัยในตนเอง และพัฒนาตนเองในที่สุด
ซึ่งการออกแบบการเรียนการสอนจะตอบสนองความรู้เรียนและผู้สอนในจุดนี้ได้ด้วยการวางแผนการออกแบบการเรียนการสอนที่สมบูรณ์
(กาญจนาและลัดดา,๒๕๓๗)
๔. แบบจำลองการออกแบบการสอนโดยทั่วไป
ออกแบบการเรียนการสอนนำความรู้จากหลายสาขามาประยุกต์เข้าด้วยกันเป็นขั้นตอนกระบวนการเชิงระบบเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
โดยพื้นฐานแล้ววิธีการเชิงระบบกำหนดให้ต้องระบุว่า จะเรียนอะไร วางแผนการสอนว่าจะยอมให้การเรียนรู้อะไรเกิดขึ้น
วัดผลกาเรียนรู้เพื่อตัดสินว่า การเรียนรู้นั้นบรรลุตามวัตถุประสงค์หรือไม่และกัดกรองตัวสอดแทรกจนกระทั่งบรรลุจุดประสงค์
แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนทั่วไป
มีความง่ายในการใช้มาก แต่ต้องใช้ด้วยความประณีต และปรับปรุงอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามแบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนโดยทั่วไปได้จัดเตรียมการแนะนำขั้นตอนในกระบวนการออกแบบไว้อย่างดี
แบบจำลองในลักษณะนี้มีความหมายว่าการออกแบบการเรียนการสอนเป็นกระบวนการเชิงระบบที่ประกอบด้วยขั้นตอนทั่วไปเหล่านี้
คือ ๑. การวิเคราะห์ (analysis) ซึ่งเป็นกระบวนการของการระบุว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องเรียน
๒. การออกแบบ (design) ซึ่งเป็นกระบวนการของการระบุว่าจะเรียนอย่างไร
๓. การพัฒนา (development)
เป็นกระบวนการของการจัดการและการผลิตวัสดุอุปกรณ์ ๔. การนำไปใช้ (implementation) เป็นกระบวนการของการกำหนดโครงการในบริบทของโลกแห่งความจริง และ ๕.
การประเมินผล (evaluation) เป็นกระบวนการของการตัดสินใจตกลงใจต่อความเพียงพอของการเรียนการสอน
๕. บทบาทผู้ออกแบบการเรียนการสอน
บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอน (designer’s role) สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่นำเสนอว่าต้องอาศัยเทคนิค
หรือไม่ต้องอาศัยเทคนิค และขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของทีมการออกแบบ เนื้อหาที่ต้องใช้เทคนิคสูง
ผู้ออกแบบจำเป็นต้องให้คำแนะนำในการออกแบบกับผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา (content expert) ถ้าเนื้อหานั้นไม่ต้องใช้เทคนิคที่สูงมากจนเกินไปผู้ออกแบบก็สามมารถจัดทำได้โดยอิสระมากขึ้นด้วยความช่วยเหลือของผู้ชำนาญการด้านเนื้อหาผู้ออกแบบสามารถที่จะทำงานเป็นผู้ให้คำปรึกษาภายนอก
และรับผิดชอบภาระงานทั้งหมดเหมือนกับเป็นคนในสำนักงาน ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา
บทบาทของผู้ออกแบบสามารถมีได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา
บทบาทของผู้ออกแบบสามมรถมีได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กะบความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา ดังตัวอย่างทั้งสาม (Seels
and Glasgow, ๑๙๙๐) คือ
๑.
ผู้ชำนาญการด้านเนื้อหาและมีสมรรถภาพในการออกแบบการเรียนการสอนและเทคโนโลยี
และเป็นผู้ที่รู้บทบาทขแงการออกแบบด้วย ไม่จำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือด้านความรู้
ความชำนาญด้านเนื้อหาวิชา
๒.
ผู้ออกแบบการเรียนการสอน
ที่ได้รับการร้องขอให้ทำงานในด้านเนื้อหาที่อาจจะมีความคุ้นเคย แต่ผู้ออกแบบยังคงรู้สึกมีความจำเป็นที่จะทำงานกับผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา
๓.
ผู้ออกแบบอาจได้รับการร้องขอให้พัฒนาหรือวิจัยในด้านเนื้อหาที่ไม่มีความคุ้นเคยและดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกและทำงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาจำนวนมาก
๖.
งานและผลผลิตของการออกแบบการเรียนการสอน
งานของผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะหลากหลายในความต้องการด้านความรู้ความชำนาญ
ผลิตผลที่ได้และสถานการณ์ของงาน
ผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะวิเคราะห์ภาระงานภายใต้การนิเทศของผู้จัดการโครงการในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและการพัฒนา
ผู้จัดการโครงการอาจจะนำทีมซึ่งพัฒนาการประชุมเชิงปฏิบัติการสามวันสำหรับการอุตสาหกรรม
(three-day workshop) การออกแบบไม่จำเป็นต้องเป็นทีมเสมอไป
ในองค์กรเล็กๆ อาจจะใช้ผู้ออกแบบเพียงคนเดียว
ในการกระทำภาระการออกแบบการเรียนการสอน
๖.๑
งานออกแบบ
พิสัยของงาน
(job) เป็นไปตามสถานการณ์
และระดับที่แตกต่างกันของผู้ชำนาญการบางครั้งผู้ออกแบบการเรียนการสอนทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้ชำนาญการมนขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการ
ในบางงานเรียกผู้ออกแบบว่าเป็นผู้ปฏิบัติที่มีสมรรถภาพในการดำเนินโครงการตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
พิสัยของงานไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ที่มีความเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษแต่บางงานต้องการระดับความแตกต่างของผู้ชำนาญการ
(expertise)
โดยปกติ
งานในโรงเรียนรวมถึงหน้าที่ในการออกแบบการเรียนการสอน
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในตำแหน่งอื่นๆ เช่น
ผู้นิเทศหลักสูตร (curriculum supervisor) ผู้ชำนาญการด้านสื่อ
(media specialist) นักเทคโนโลยีการเรียนการสอน (instructional
technologies) เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์อื่นๆ
แล้วผลที่เกิดจากการออกแบบการเรียนการสอนอยู่ในระดับต่ำ
เหตุผลบางประการที่การออกแบบการเรียนการสอนให้ผลกระทบในระดับต่ำ
คือ ครูยึดติดกับธรรมชาติดั้งเดิมของโรงเรียน ติดแน่นอยู่กับตารางกำหนดงานประจำวัน
การพิจารณาให้ทุนกับโรงเรียนมีน้อย
การที่จะทำให้การออกแบบการเรียนการสอนมีความโดดเด่นขึ้นในสถานการณ์ภายในโรงเรียนต้องมีการเปลี่ยนแปลงสามประการคือ
๑. ลดจำนวนวิชาที่ใช้โดยครูและนักเรียนในชั้นเรียนแบบดั้งเดิม (traditional
classers) ๒. ส่งเสริมการเรียนการสอนรายบุคคลในหลักสูตรให้มากขึ้น
และ ๓. ใช้ระบบการสอนที่สิ้นเปลืองงบประมาณน้อย (low cost) (Seels,and
Glasgow, ๑๙๙๐ : ๑๔)
ภาพความหวังสำหรับตำแหน่งการออกแบบการเรียนการสอนเป็นสิ่งที่ดีเลิศ
เพราะสถิติของความต้องการการฝึกอบรมซ้ำ
และความต้องการผู้ทำงานในด้านนี้มากกว่าร้อยละ ๔๐
ของนายจ้างที่มีความยากลำบากในการหาผู้ที่มีคุณภาพสำหรับงาน
ตัวอย่างระดับของผู้ชำนาญการในงานออกแบบการเรียนการสอน
๖.๒
ผลิตผลของการออกแบบ
ไม่ว่าจะเป็นงานที่ตั้งสมมติฐานไว้
หรืองานในหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของผลิตผลก็ตาม
จะมีขอบเขตที่แตกต่างและซับซ้อน งานการออกแบบการเรียนการสอนก็เช่นกัน
ขอบเขตรวมถึงความแตกต่างของขนาดและเนื้อหาความซับซ้อนรวมถึงความแตกต่างของหลักสูตรหรือสื่อ
ในระดับที่เล็กที่สุดของขอบเขตคือ แผนการสอน (lesson plans) และหน่วยหรือชุดโมเดล (modules)
ระดับต่อไปรวมถึงรายวิชา (courses) และหน่วย (unit) รายวิชาหลักสูตรและสิ่งแวดล้อม
เป็นตัวอย่างของผลิตผลที่มีขอบเขตกว้างใหญ่ ระดับสูงสุดของระดับความซับซ้อน คือ
สื่อการเรียนรู้ ซึ่งมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันโดยอาศัยสื่อทางโทรคมนาคม
และคอมพิวเตอร์เข้าช่วย ระดับต่ำสุดของความซับซ้อน คือ กระดาษและดินสอ และสำหรับ
โสดทัศนวัสดุ เป็นระดับกลางของความซับซ้อน (Seels and Glasgol, ๑๙๙๐ : ๑๔)
โสดทัศนวัสดุ เป็นระดับกลางของความซับซ้อน (Seels and Glasgol, ๑๙๙๐ : ๑๔)
สภาพแวดล้อมที่ประกอบด้วยหน้าที่ของการเรียนการสอน
เป็นสถานการณ์สำหรับการออกแบบการเรียนการสอนสิ่งนี้รวมถึงความพยายามออกแบบการเรียนการสอนในสถานการณ์ระหว่างประเทศ
การธุรกิจการอุตสาหกรรม สุขภาพและสมาคมที่ไม่มีผลประโยชน์
การเรียนและการศึกษานอกระบบ ทั้งหมดนี้ต้องการการพัฒนาการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ
ซึ่งใช้ประโยชน์จากสื่อการเรียนการสอนและเทคโนโลยี
ตัวอย่างสื่อประสบการณ์ประเภทรูปธรรมและนามธรรม
สื่อประสบการณ์ประเภทรูปธรรมที่สูงที่สุดคือ
ประสบการณ์ตรงอย่างมีความหมา
สื่อประสบการณ์ประเภทนามธรรมที่สูงที่สุดคือ
วัจนสัญลักษณ์ คือ ตัวหนังสือ
ความแตกต่างระหว่างสถานการณ์เหล่านี้
สามารถนำไปสู่ความแตกต่างในกระบวนการและผลิตผลของการออกแบบการเรียนการสอน เดอโซ (Dorso,๑๙๘๓ : ๒-๗) กล่าวว่า
มีข้อควรระวังที่ควรจดจำสองประการสำหรับผู้ออกแบบที่จะพาตนเองออกไปจากโลกของการศึกษาสู่โลกธุรกิจการให้คำปรึกษา
ดังนี้ ประการแรกอาจต้องวิเคราะห์ให้มากก่อนที่จะได้ทำสัญญา
และประการหลังอาจต้องเสนอโครงการที่ใช้งบประมาณน้อย
แม้ว่าจะไม่เป็นไปตามต้องการนักเพื่อการแข่งขัน
ในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
ผู้ที่ผันตนเองจากโลกของการศึกษาระดับสูงไปสู่ระบบโรงเรียนประถมและมัธยมศึกษาจำเป็นต้องรับรู้ว่าบรรทัดฐานที่แตกต่างกันหมายถึงข้อจำกัดที่แตกต่างกันด้วย
ข้อจำกัดของระเบียบแบบแผนที่ใช้ประจำสำหรับการอุดมศึกษา คือ
การผ่านมาตรฐานการรับรอง ข้อจำกัดของระเบียบแบบแผนที่ใช้ประจำโรงเรียนมัธยมศึกษา
คือ งบประมาณและค่านิยมของชุมชน
ผู้ออกแบบจำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจในภาระงาน
(task
oriented) และสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นให้ได้ผลิตผล
เพราะว่างานการออกแบบส่วนมากสำเร็จลงได้ด้วยการทำงานเป็นทีม
นักออกแบบจำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความคิดกว้างไกล เปิดใจ
และสามารถที่จะยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์เชิงสร้างสรรค์ได้ มีความอดทนสูงต่อข้อสงสัยของผู้อื่นที่มีต่องานของตน
กาเย่
ได้พรรณนาคุณลักษณะบุคคลของนักเทคนิคการออกแบบการเรียนการสอนไว้สามประเภท คือ
เจตคติหรือค่านิยม (attitude or values)
ความรู้เฉพาะทาง (specialized knowledge)
และทักษะเชาวน์ปัญญา (intellectual skills) หรือวิธีการ (methodologies)
นักออกแบบจำเป็นต้องให้คุณค่ากับการสังเกตที่ปรากฎชัดเป็นพื้นฐานสำหรับการกระทำและจำเป็นต้องสามารถวิเคราะห์ผลที่ได้รับจากการเรียนรู้และสถานการณ์การเรียนรู้
ใช้เทคนิคการวัดผลและสร้างแบบทดสอบและมีทักษะทางสถิติและการติดต่อสื่อสาร
ด้วย
เมื่อบริษัท
เมาเทน เบลล์ (Moutain Bell Corporation)
ต้องการที่จะพัฒนานักออกแบบของตนเองจากลูกจ้างที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมในเรื่องที่เกี่ยวกับการออกแบบการเรียนการสอนบริษัทได้พิจารณาทักษะการเขียน
การพูด และการวิเคราะห์ และพบว่าทักษพเหล่านี้เป็นหน้าที่พื้นฐานที่นักออกแบบการเรียนการสอนจะต้องปฏิบัติ
(Mexwell and Seyfer, ๑๙๘๔ : ๘-๑๐)
นักออกแบบจำเป็นต้องมีทักษะกระบวนการและทักษะระหว่างบุคคลควบคู่ไปกับทักษะการให้คำปรึกษาไม่ว่าจะเป็นสัญญาชั่วคราวในการแก้ปัญหาเฉพาะ
หรือได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนการสอน
บ่อยครั้งที่ต้องสวมบทบาทของการให้คำปรึกษาด้วย
ผู้ออกแบบจะถูกขอให้ช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งจะต้องตัดสินใจให้ได้ว่าปัญหาการเรียนการสอนคืออะไร
มีผลกระทบต่อใคร และเกี่ยวข้องกับอะไร อย่างไร
นักออกแบบต้องสามารถทำให้ประชาชนเชื่อถือและอาสาที่จะทำงานร่วมด้วย
นักออกแบบไม่ได้ต้องการที่จะให้การจัดการทุกอย่างต้องขึ้นกับตนเอง
แต่ต้องการที่จะแลกเปลี่ยนทักษะ การผสมผสานของการกระตือรือร้น และความสงบเสงี่ยม
ซึ่งเป็นคุณลักษณะของที่ปรึกษาที่มีคุณภาพ
ก็เป็นอีกคุณลักษณะหนึ่งของนักออกแบบการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพด้วยเหมือนกัน
๗.๒ ประกาศนียบัตร
เราจำเป็นต้องรู้ถึงสมรรถภาพของนักออกแบบการเรียนการสอนตามต้องการ
เพื่อที่จะได้เพิ่มพูนสมรรถภาพเหล่านั้น
สมาคมเพื่อการปฏิบัติและการเรียนการสอนแห่งชาติ (The national
society for performance and instruction) และแผนกการพัฒนาการเรียนการสอนของสมาคมเพื่อการสื่อสาร
และเทคโนโลยีการศึกษา (The Division of Instructional Development of
Association for Educational communication and technology) ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินงานเพื่อสืบความเป็นไปได้และความสามารถตามต้องการของการให้คำรับรอง
(certifying) นักออกแบบการเรียนการสอน
คณะกรรมการดำเนินงาน
ได้ตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยส่งเสริมความพยายามดังกล่าวนี้
ในแต่ละองค์กรได้มีการแสดงทัศนะตอบโต้กันถึงความต้องการประกาศนียบัตร
จนเป็นที่กระจ่างว่า ใครควรจะได้รับการรับรอง ใครควรเป็นผู้ให้การรับรอง และทำไม
อย่างไร และพฤติกรรมอะไรที่แท้จริง ที่ระบุว่าเป็นสมรรถภาพ
สมรรถภาพในการพัฒนาการเรียนการสอนและการฝึกอบรม
ผู้เชี่ยวชาญที่มีสมรรถภาพในการพัฒนาการเรียนการสอนและการฝึกอบรม
มีความสามารถดังต่อไปนี้คือ
๑.ตัดสินใจโครงการที่มีความเหมาะสมสำหรับการพัฒนาการเรียนการสอน
* วิเคราะห์สารสนเทศ
โดยพิจารณาศักยภาพของโครงการและตัดสินการพัฒนากาเรียนการสอนอย่างเหมาะสม
* แยกแยะความต้องการในการแก้ไขปัญหากาเรียนการสอนตามเงื่อนไขจากความต้องการการแก้ปัญหาอื่นๆ
(เช่น การออกแบบงาน การพัฒนาองค์กรและอื่นๆ )
* พิจารณาความเหมาะสมของการตัดสินใจเลือกโครงการและจัดเตรียมเหตุผลของการตัดสินใจ
๒.ดำเนินการประเมินความต้องการจำเป็น
*
พัฒนาแผนการประเมินความต้องการจำเป็น รวมถึงการเลือกวิธีการและเครื่องมือ
* ดำเนินการประเมินความต้องการจำเป็น
และตีความผล เพื่อแนะนำการกระทำที่เหมาะสม
* พิจารณาความเหมาะสม
ความสมบูรณ์ และความถูกต้องของแผนการประเมินความต้องการจำเป็นและเหตุผล
๓.ประเมิณคุณลักษณะของผู้เรียนผู้เข้ารับการฝึกอบรม
* แยกความต่างระหว่างการประเมินทักษะเริ่มเข้าเรียน
(entry
skills)
* การประเมินความรู้เดิมที่ต้องมีก่อนและการประเมินความถนัด
ระบุพิสัยของคุณลักษณะที่สัมพันธ์กันของผู้เรียนผู้รับการฝึกอบรม
และพิจารณาพิธีการสำหรับการประเมินผล
* พัฒนาแผนสำหรับการประเมินคุณลักษระของผู้เรียนผู้รับการฝึกอบรมและนำไปใช้พิจารณาความเหมาะสม
ความเข้าใจ และความเพียงพอของการประเมินผลคุณลักษณะของผู้เรียนผู้รับการฝึกอบรม
๔.วิเคราะห์โครงสร้างคุณลักษณะของงาน
(job) ภาระงาน (tasks)
และเนื้อหาเลือกและใช้ระเบียบวิธีการเพื่อการวิเคราะห์โครงสร้างคุณลักษณะที่เหมาะสมกับงานต่อภาระงานย่อยหรือเนื้อหาและบอกเหตุของการเลือกด้วย
๕.เลือกคำกล่าวของผลที่ได้รับของผู้เรียน
* กล่าวถึงจุดประสงค์ที่มีความแตกต่างกันในรูปของการปฏิบัติพฤติกรรมจากเป้าประสงค์ของกาเรียนการสอน
เป้าประสงค์ของการจัดการ กิจกรรมของผู้เรียน
และจุดประสงค์ที่เขียนขึ้นในสไตล์อื่นๆ
* กล่าวถึงผลที่ได้รับในรูปของการปฏิบัติซึ่งจะสะท้อนถึงความตั้งใจของกาเรียนการสอน
พิจารณาความถูกต้องความเข้าใจ
และความเหมาะสมของข้อความที่กล่าวถึงผลที่ได้รับของผู้เรียนในรูปของการวิเคราะห์งาน
ภาระงาน และเนื้อหาวิชา และการพิจารณาการลงความเห็นของลูกความ
๖.วิเคราะห์คุณสมบัติของสถานการณ์
(สิ่งแวดล้อมทางการเรียน)
* วิเคราะห์คุณสมบัติของสถานการณ์
และตัดสินความสัมพันธ์ของทรัพยากรและข้อจำกัด
* พิจารณาความถูกต้อง
ความเข้าใจ และความเหมาะสมของการวิเคราะห์สถานการณ์
๗.ลำดับขั้นตอนของผลที่ได้รับของผู้เรียน
* เลือกวิธีการเหมาะสมลำดับชั้นของผลที่ได้รับจากการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับสถานการณ์กับขั้นตอนของผลที่ได้รับ
และถ้อยคำกล่าวที่มีเหตุผลสำหรับลำดับขั้น พิจารณาความถูกต้อง
ความสมบูรณ์และความเหมาะสมของขั้นตอนของผลที่ได้รับของผู้เรียน
๘.ชี้เฉพาะกลยุทธ์การเรียนการสอน
* เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมต่อสารสนเทศที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้เรียน
ทรัพยากรและข้อจำกัด ผลที่ได้รับของผู้เรียนตามความต้องการ
และสารสนเทศที่ตรงกับเรื่องอื่นๆ และถ้อยคำที่เป็นเหตุเป็นผลสำหรับการเลือก
๙.ลำดับชั้นกิจกรรมของผู้เรียน
* ระบุขั้นตอนกิจกรรมที่เหมาะสมของผู้เรียน
จะทำให้ประสบความสำเร็จผลที่ได้รับเฉพาะอย่าง
และถ้อยคำที่เป็นเหตุเป็นผลสำหรับขั้นตอน
* พิจารณาความเหมาะสมและความสมบูรณ์ของลำดับชั้นกิจกรรมของผู้เรียน
๑๐.ตัดสินใจเกี่ยวกับทรัพยากรการเรียนการสอน
(สื่อ) ที่เหมาะสมต่อกิจกรรมการเรียนการสอน
* พิจารณาความเป็นพิเศษของทรัพยากรกาเรียนการสอนตามความต้องการเพื่อกลยุทธ์การเรียนการสอนที่ขัดแย้งและผลที่ได้รับของผู้เรียน
* ประเมินทรัพยากรการเรียนการสอนที่มีอยู่ซึ่งตัดสินความเหมาะสมสำหรับกลยุทธ์การเรียนการสอนเฉพาะ
และผลที่ได้รับของผู้เรียน
* ปรับทรัพยากรการเรียนการสอนที่มีอยู่
* เตรียมระบุความพิเศษในการผลิตวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ
ตามต้องการ (สตอรี่บอร์ดบทเรียน หัวข้อสคริป อื่นๆ
๑๑.ประเมินการเรียนการสอน/การฝึกอบรม
*
วางแผนและดำเนินการประเมินผลเพื่อปรับปรุง (formative evaluation) เช่น ทดลองเนื้อหาให้ผู้เชี่ยวชาญปรับปรุง
*
พัฒนาพิสัยของเทคนิคการเก็บรวบรวมสารสนเทศ (เช่น แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบทดสอบ
สถานการณ์จำลอง และการสังเกต อื่นๆ)
๑๒.สร้างสรรค์รายวิชา
ชุดการฝึกอบรม และระบบการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ
*
ตัดสินใจเกี่ยวกับองค์ประกอบของรายวิชา/ชุดการฝึกอบรม/ระบบการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ
และถ้อยคำที่เป็นเหตุผลสำหรับการเลือก
*
พิจารณาความเหมาะสม ความเข้าใจ และความเพียงพอของระบบการจัดการที่มีอยู่
๑๓.วางแผนและเฝ้าระวังติดตามโครงการพัฒนาการเรียนการสอน
*
พัฒนาและติดตามแผนโครงการพัฒนาการเรียนการสอน (รวมถึงเวลา งบประมาณ บุคลากรอื่นๆ)
ที่เหมาะสมต่อธรรมชาติของโครงการและสถานการณ์
๑๔.สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพทางทัศนะ
ทางการพูด และทางการเรียน
๑๕.สาธิตพฤติกรรมที่เหมาะสมระหว่างบุคคล
กระบวนการกลุ่ม และพฤติกรรมการให้คำปรึกษา
*
สาธิตพฤติกรรมระหว่างบุคคลและปัจเจกบุคคลและกับกลุ่ม
และถ้อยคำที่มีเหตุผลสำหรับการใช้พฤติกรรมในสถานการณ์ที่กำหนดให้
*
สาธิตพฤติกรรมการให้คำปรึกษากับปัจเจกบุคคลและกับกลุ่ม
และถ้อยคำที่มีเหตุผลสำหรับพฤติกรรมใรสถานการณ์ที่กำหนดให้
*
พิจารณาความเหมาะสมของพฤติกรรมระหว่างบุคคล กระบวนการกลุ่ม
และการให้คำปรึกษาในสถานการณ์ที่กำหนดให้
๑๖.ส่งเสริมการแพร่กระจาย
และการรับเอา (adoption)
กระบวนการพัฒนาการเรียนการสอนมาใช้
*
เลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับส่งเสริมการแพร่กระจาย
และการรับเอากระบวนการพัฒนาการเรียนการสอนในสถานการณ์ที่กำหนดให้
และถ้อยคำที่มีเหตุผลสำหรับกลยุทธ์
การออกแบบการเรียนการสอน
มีประโยชน์ต่อบุคลากรทางการศึกษา เช่น ผู้บริหาร ครูผู้สอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้เรียน
การออกแบบการเรียนการสอนช่วยสนองความต้องการ และความแตกต่างระหว่างบุคคล
ส่งเสริมการเรียนรู้แบบร่วมมือกันมากกว่าการแข่งขันกันและสนับสนุนให้ผู้เรียนเก่งไปได้เร็วสุดพรมแดนของความรู้
สำหรับผู้เรียนก็จะได้รับความสนใจอย่างทั่วถึง
แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์
การพัฒนา การนำไปใช้ และการประเมินผล
ขั้นของการออกแบบจำลองโดยทั่วไปเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและสิ่งที่สนับสนุนการออกแบบการเรียนการสอนคือ
การสำรวจวิธีการที่ใช้ในสาขาวิชา การทบทวนภายใน และการพัฒนาแบบทดสอบ
บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอนมีได้หลากหลาย
ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา
ผู้ออกแบบกาเรียนการสอนมีบทบาทเป็นทั้งนักวิจัยการออกแบบการเรียนการสอน (ID
researcher) และนักปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอน (ID
practitioner) โดยที่นักวิจัยสนใจศึกษาตัวแปรและพัฒนาทฤษฎีที่สัมพันธ์กับการเรียนการสอน
มีบทบาทเป็นผู้ชำนาญการพิเศษ ในขณะที่นักปฏิบัติสนใจการประยุกต์งานวิจัย
และทฤษฎีพัฒนาการเรียนการสอน และวัสดุอุปกรณ์มีบทบาทเป็นผู้รู้ทั่วๆ ไป
งานและผลิตผลของการออกแบบการเรียนการสอน ผู้ออกแบบการเรียนการสอนบางครั้งทำหน้าที่เป็นผู้ชำนาญการ
บางครั้งเป็นผู้ปฏิบัติการที่มีสมรรถภาพ เป็นผู้นิเทศ เป็นผู้ชำนาญการด้านสื่อ
เป็นนักเทคโนโลยีการเรียนการสอน เป็นผู้จัดการเรียนการสอน
ผลิตผลของการออกแบบการเรียนการสอนเช่น แบบการสอน ชุดการสอนรายวิชา โปรแกรมคอมพิวเตอร์
การเรียนการสอนด้วยตนเองโดยอาศัยคอมพิวเตอร์เป็นพื้นฐาน หลักสูตร และแบบฝึกปฏิบัติ
สมรรถภาพของผู้ออกแบบการเรียนการสอน
ผู้ออกแบบการเรียนการสอนต้องมีความสามารถในการคิดทั้งเชิงรูปธรรมและนามธรรม
มีความคงเส้นคงวา มีเหตุมีผล มีความถนัด มีความสนุกสนานในการทำงาน
ในการสร้างแบบจำลอง มีความสามารถในการเขียนและการเรียบเรียง มีความเข้าใจในภาระ
การทำงารร่วมกับผู้อื่นได้ มีความรู้กว้างไกล ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์
อดทนต่อผู้สงสัยของผู้อื่นที่มีต่องาน หรืออีกนัยหนึ่งคือ
มีเจตคติหรือค่านิยมที่ดีต่องาน มีความรู้เฉพาะทาง
และมีทักษะเชาวน์ปัญญาหรือวิธีการ รู้จักสังเกต
วิเคราะห์ใช้เทคนิคการวัดผลและสร้างแบบทดสอบ
ตลอดจนมีทักษะทางสถิติและการติดต่อสื่อสาร
การออกแบบการเรียนการสอน หมายถึง
กระบวนการแก้ปัญหาการเรียนการสอน โดยการวิเคราะห์สถานการณ์ หรือเงื่อนไขในการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
แล้วจึงวางแผนการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบเพื่อให้การเรียนการสอนบรรลุจุดหมายโดยอาศัยความรู้จากหลายทฤษฎี
เช่น ทฤษฎีการเรียนรู้ ทฤษฎีการเรียนการสอน ทฤษฎีการติดต่อสื่อสาร
ตลอดจนทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
ทฤษฎีการสอนเป็นพื้นฐานความรู้สำคัญที่สามารถประยุกต์ไปสู่การออกแบบการเรียนการสอนได้โดยตรง
ซึ่งแตกต่างจากทฤษฎีการเรียนรู้ที่เพียงแต่อธิบายว่า
การเรียนรู้เกิดขึ้นได้อย่างไร
แต่มิได้เสนอแนะว่าจะทำอย่างไรจึงจะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ได้ดีที่สุด
แต่ทฤษฎีการสอนพยายามจะวิเคราะห์เงื่อนไขของการเรียนการสอนและชี้แนะการจัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ที่จะช่วยให้ผู้เรียนเกิด
การเรียนรู้ได้ดีที่สุด
แม้ว่าจะไม่มีทฤษฎีการสอนใดที่มีความสมบูรณ์ที่สามารถจะอธิบายการจัดสภาพ
การเรียนการสอนสำหรับผลการเรียนรู้ได้ทุกประเภทและเหมาะสมกับผู้เรียนที่มีลักษณะแตกต่างกัน
ทฤษฎีการเรียนรู้มีอิทธิพลต่อการจัดการเรียนการสอนมาก
เพราะจะเป็นแนวทางในการกำหนดปรัชญาการศึกษาและการจัดประสบการณ์
เนื่องจากทฤษฎีการเรียนรู้เป็นสิ่งที่อธิบายถึงกระบวนการ
วิธีการและเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้และตรวจสอบว่าพฤติกรรมของมนุษย์
มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร
ระบบและวิธีการเชิงระบบ
ถูกนำมาใช้เป็นแนวคิดในการออกแบบการทำงานและการแก้ปัญหาใน การทำงานต่าง ๆ
ให้ประสบความสำเร็จในสาขาต่าง ๆ เช่น ด้านวิศวกรรม ด้านอิเล็กทรอนิกส์ ด้านการทหาร
และด้านอวกาศ เป็นต้น ต่อมาได้มีการนำวิธีการเชิงระบบมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน
โดยนักการศึกษาที่มีอิทธิพลต่อแนวคิดนี้หลายท่าน อาทิ ไทเลอร์ (Tyler)
กาเย่ (Gagné) บริกส์ (Briggs) เกลเซอร์ (Glaser) และ ดิคและคาเรย์ (Disk
& Carey) เป็นต้น
การออกแบบการเรียนการสอน ควรมีการวางแผนเพื่อพิจารณาว่าผู้เรียนเป็นใคร
มีคุณลักษณะพื้นฐานอย่างไร กำหนดจุดมุ่งหมายในการสอนครั้งนั้นอย่างไร
จะใช้วิธีการเรียนการสอนและกิจกรรมการเรียนรู้
และวิธีการประเมินผลการเรียนอะไรบ้าง จึงจะสามารถทำให้การสอนนั้นบรรลุเป้าหมาย คือ
ภายหลังเรียนแล้วรู้ เข้าใจ จดจำ นำไปใช้ ทำได้ สร้างสรรค์ สิ่งใหม่ได้เป็นต้น
ดังนั้นสิ่งที่ควรพิจารณาในการออกแบบการเรียนการสอน ได้แก่ ผู้เรียน
วิธีการสอนและกิจกรรมการเรียนรู้ จุดมุ่งหมาย และการประเมิน
ในการออกแบบการเรียนการสอนจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยคุณลักษณะและสมรรถภาพของผู้ออกแบบการเรียนการสอนเพื่อการจัดการเรียนรู้ที่ประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพดังนี้
เพิ่มเติม : ตัวอย่างการออกแบบการเรียนการสอนอีเลิร์นนิง
(Instructional
design for e-Learning)
การจัดการเรียนการสอนอีเลิร์นนิงนั้นมีความแตกต่างในการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนปกติ
เนื่องจากผู้เรียนและผู้สอนอาจมีความแตกต่างกันในเรื่องของเวลา และสถานที่
ผู้ที่จัดการเรียนการสอนอีเลิร์นนิงจึงจำเป็นต้องมีความเข้าใจลักษณะและธรรมชาติของการเรียนการสอนทางไกลที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารด้านคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตเป็นสื่อกลาง
ซึ่งผู้เรียนมักคาดหวังการได้รับปฏิสัมพันธ์จากผู้สอน
รวมถึงการตอบสนองความแตกต่างรายบุคคลที่มากกว่าในห้องเรียนปกติ
ตลอดจนต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการการศึกษาทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ต
ทฤษฎีการสื่อสาร ทฤษฎีการเรียนรู้ ทฤษฎีระบบ และรูปแบบระบบการเรียนการสอน
เพื่อเป็นฐานในการออกแบบการเรียนการสอนอีเลิร์นนิงได้
อีกทั้งการออกแบบการเรียนการสอน มิได้เป็นการเน้นที่การถ่ายโอนความรู้ (Transfer
of knowledge) จากผู้สอนไปยังผู้เรียนเท่านั้น
การเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิงจำเป็นต้องคำนึงถึงการออกแบบการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญซึ่งประกอบด้วยการเรียนตามอัตราความก้าวหน้ารายบุคคล
การมีปฏิสัมพันธ์ในการเรียนการสอนเป็นสำคัญ
และสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้ผ่านอินเตอร์เน็ตด้วย
สำหรับการจัดการเรียนการสอนอีเลิร์นนิงนั้น
แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนอีเลิร์นนิงสามารถนำหลักการพื้นฐานในการออกแบบการเรียนการสอน
คือ แบบจำลอง ADDIE Model ทั้งองค์ประกอบ ๕ ขั้นตอน
ดังนี้
๑. การวิเคราะห์
ในการออกแบบการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิงควรดำเนินการวิเคราะห์รายละเอียด ๕ ด้าน
๑.๑ วิเคราะห์ความจำเป็น
- จัดการเรียนการสอนอีเลิร์นนิงในหลักสูตร
รายวิชา หรือเนื้อหาอะไร
- จัดการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิงเต็มรูปแบบ
หรือแบบผสมผสาน หรือเสริมการเรียนการสอน
๑.๒ วิเคราะห์เนื้อหา
หรือกิจกรรมการเรียนการสอน
- การแบ่งเนื้อหาเป็นหัวข้อใหญ่ หรือหัวข้อย่อย
ๆ เพื่อให้มีความชัดเจน
กำหนดเลือกกิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสมที่จะให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
๑.๓ วิเคราะห์ผู้เรียน
- ข้อมูลผู้เรียน เช่น ระดับชั้น อายุ
ความรู้พื้นฐาน เพื่อให้ได้บทเรียนที่มีคุณภาพ และเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
๑.๔ วิเคราะห์วัตถุประสงค์
- กำหนดวัตถุประสงค์ด้ายพุทธิพิสัย คือ
พฤติกรรมเกี่ยวกับความรู้ ความเข้าใจ ด้านจิตพิสัย คือ พฤติกรรมเกี่ยวกับความรู้สึก
ค่านิยม ทัศนคติ และด้านทักษะพิสัย คือ พฤติกรรมเกี่ยวกับการกระทำหรือการปฏิบัติ
- ระดับชั้น อายุ ความรู้พื้นฐาน
เพื่อให้ได้บทเรียนที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
๑.๕ วิเคราะห์สภาพแวดล้อม
- อุปกรณ์สนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียน เช่น
เครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แม่ข่าย จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ในสถาบัน ระบบจัดการสอน
-
จำนวนผู้เรียนที่มีคอมพิวเตอร์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพา สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต
ความเร็ว
๒. ออกแบบ
- การเขียนผังงาน การออกแบบ storyboard
เพื่อจัดลำดับความสัมพันธ์ของเนื้อหาแต่ละส่วนบทดำเนินเรื่อง
และการออกแบบบทเรียน ภาพ ข้อความ เสียง และมัลติมีเดีย กิจกรรมการเรียน การกำหนด
ปฏิสัมพันธ์การเรียน และการประเมินผล
- การนำตัวบทบทเรียนที่ผ่านการออกแบบและวิเคราะห์จากขั้นวิเคราะห์มาพัฒนาเป็นการเรียนอีเลิร์นนิง
- การออกแบบหน้าจอภาพ (screen
design) การจัดพื้นที่และองค์ประกอบของจอภาพเพื่อใช้ในการนำเสนอเนื้อหา
ภาพ กราฟิกเสียง สี ตัวอักษร และส่วนประกอบอื่น ๆ
ให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ของผู้เรียน
๓. พัฒนา
ขั้นพัฒนาเป็นขั้นตอนของการลงมือปฏิบัติการสร้างบทเรียนตามผลการออกแบบจากขั้นตอนที่สอง
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยผู้มีความเชี่ยวชาญหลายด้าน เช่น
นักออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิก
นักคอมพิวเตอร์ผู้ดูแลและจัดการระบบการจัดการเรียนการสอน (LMS
: learning management system)
๔.
นำไปใช้
การนำเสนอการเรียนผ่านระบบบริหารจัดการเรียนการสอนเผยแพร่บนระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
(network)
และสู่การนำไปจัดการเรียนการสอนจริง
๕. ประเมิน
การประเมินการวิเคราะห์ การประเมินการออกแบบ
การประเมินการพัฒนาและการประเมินเมื่อนำไปใช้จริงของระบบอีเลิร์นนิง
โดยกระทำระหว่างดำเนินการ คือ การประเมินระหว่างดำเนินงาน (formative
evaluation) และประเมินภายหลังการดำเนินงาน (summative
evaluation) การประเมินจะทำให้ผู้พัฒนาทราบข้อมูลเพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องในขั้นตอนต่าง
ๆ
https://sites.google.com/site/sirinartcwp/e-learning-design
https://sites.google.com/site/sirinartcwp/e-learning-design
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น